การดูแลสุขภาพช่องปากวัยเรียน เป็นสิ่งที่ผู้ปกครองควรให้ความสำคัญ


บทความน่ารู้
23 พฤศจิกายน 2565

 
การดูแลสุขภาพช่องปากวัยเรียนเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะการดูแลสุขภาพช่องปากตั้งแต่วัยเรียน จะทำให้มีสุขภาพร่างกายที่ดี ซึ่งการสร้างสุขภาพที่ดีก็เริ่มสร้างได้จากการดูแลสุขภาพฟันน้ำนม เนื่องจากฟันน้ำนมมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเด็ก ถ้าดูแลฟันน้ำนมได้ดี เด็กก็จะได้รับสารอาหารจากการทานอาหารอย่างเต็มที่ ซึ่งสารอาหารที่ได้รับเข้ามาก็จะถูกส่งไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย เช่น ประสาทและสมอง และยังถูกนำไปใช้ในการเจริญเติบโต ทำให้เด็กมีสภาวะการเจริญเติบโตที่ดี แต่ถ้าหากว่าดูแลฟันน้ำนมได้ไม่ดี ปล่อยให้ฟันน้ำนมเกิดการผุและลุกลามไปถึงเส้นประสาทฟัน อาการปวด บวม ก็จะเริ่มรุนแรง จนสุดท้ายก็ต้องถอนฟันน้ำนมออกไป ซึ่งเมื่อไหร่ที่มีการถอนฟันน้ำนมออกไป ผลกระทบจะเกิดขึ้นกับเด็กโดยตรง โดยจะทำให้เด็กมีพัฒนาที่ช้าลง ไม่สามารถรับประทานอาหารได้อย่างเต็มที่ ทำให้ร่างกายไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ ส่งผลไปถึงการเจริญเติบโตของเด็ก ทำให้เด็กไม่สามารถเจริญเติบโตได้ตามที่ควรจะเป็น

ทำไมเด็กวัยเรียนควรหมั่นดูแลสุขภาพช่องปากให้ดีอยู่เสมอ

เหตุผลที่เด็กวัยเรียนควรหมั่นดูแลสุขภาพช่องปากตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก ก็เพราะว่าเด็กวัยเรียนมีฟันขึ้นครบ 28 ซี่แล้ว โดยฟันกรามถาวรซี่แรกจะขึ้นต่อจากฟันน้ำนมในช่วงอายุ 6-7 ปี และฟันกรามซี่ที่ 2 จะขึ้นในช่วงอายุ 11-13 ปี ซึ่งช่วงนี้เองที่เด็กวัยเรียนควรจะต้องให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพช่องปาก ถึงแม้ว่าเด็กส่วนใหญ่จะได้รับการฝึกฝนให้หมั่นแปรงฟันตั้งแต่อยู่ในโรงเรียน แต่บางทีพฤติกรรมการแปรงฟันและพฤติกรรมการทานอาหารของเด็กอาจจะเปลี่ยนไปเมื่ออยู่ที่บ้าน โดยเด็กหลายคนชอบรับประทานขนมและดื่มเครื่องดื่มที่มีรสหวาน ซึ่งน้ำตาลที่อยู่ในอาหารเหล่านี้ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ฟันผุ 
เมื่อเด็กๆรับประทานอาหารอย่างขนมหวานและน้ำหวานเข้าไป แต่ไม่ได้มีการแปรงฟันหลังมื้ออาหารหรือก่อนนอน ก็จะทำให้เกิดปัญหาต่างๆ โดยอาจจะทำให้เกิดฟันผุลุกลาม ตามมาจนถึงขั้นสูญเสียฟัน โดยในเด็กวัยเรียนตั้งแต่ 6 ถึง 13 ปี ถือว่าเป็นช่วงกำลังที่มีฟันผสมระหว่างฟันน้ำนมกับฟันแท้ ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงที่ต้องดูแลให้ดี เพราะถ้าหากดูแลฟันน้ำนมไม่ดี มีฟันผุ แปรงฟันไม่สะอาดหรือมีเชื้อโรคในช่องปาก ก็อาจจะส่งผลกระทบไปถึงฟันแท้ ทำให้ฟันแท้ที่อยู่ใกล้กับฟันน้ำนมผุพัง ดังนั้นเด็กวัยเรียนจึงควรดูแลสุขภาพในช่องปากให้ดีให้ดีที่สุด เพื่อป้องกันฟันผุและป้องกันการสูญเสียฟันในอนาคต 

วิธีการดูแลสุขภาพช่องปากวัยเรียน ทำอย่างไร

แม้เด็กวัยเรียนส่วนใหญ่จะได้รับการปลูกฝังการดูแลสุขภาพช่องปากตั้งแต่ยังเด็กๆ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าการดูแลสุขภาพในช่องปากของแต่ละคนจะดี เพราะบางทีพฤติกรรมการกินของแต่ละคนก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพช่องปาก ดังนั้นการดูแลสุขภาพฟันจึงต้องทำอย่างเหมาะสม โดยสามารถทำได้จากวิธีต่างๆดังนี้
1.    แปรงฟันวันละ 2 ครั้ง ควรแปรงทั้งตอนเช้าและก่อนนอน เพื่อลดจุลินทรีย์และคราบพลัคในช่องปาก สำหรับยาสีฟันที่เหมาะสมกับเด็กวัยเรียนก็คือยาสีฟันระงับกลิ่นปากที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ เพราะฟลูออไรด์จะช่วยซ่อมแซม เคลือบฟันและช่วยป้องกันฟันผุได้เป็นอย่างดี 
2.    ใช้ไหมขัดฟัน สำหรับไหมขัดฟันคือหนึ่งในอุปกรณ์ทำความสะอาดฟันที่มีประโยชน์ โดยไหมขัดฟันจะ ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นฟันผุ โรคปริทันต์ ช่วยทำความสะอาดซอกฟัน ในบริเวณที่แปรงสีฟันไม่สามารถเข้าถึงได้ สำหรับการใช้ไหมขัดฟันในการทำความสะอาดฟัน ควรใช้อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง โดยจะใช้ก่อนหรือหลังการแปรงฟันก็ได้ 
3.    ตรวจสุขภาพช่องปากด้วยตัวเอง ควรทำอย่างน้อยวันละ 1 ครั้งหลังการแปรงฟัน โดยให้ตรวจดูช่องปากว่าแปรงฟันสะอาดหรือยัง หากยังแปรงฟันไม่สะอาดหรือแปรงไม่ทั่วถึง ให้แปรงซ้ำอีกครั้ง เมื่อแปรงเสร็จให้ตรวจดูว่ามีฟันผุหรือมีอะไรผิดปกติในช่องปากหรือไม่ ถ้าหากมีความผิดปกติจะได้รีบทำการแก้ไข 
4.    พบทันตแพทย์เป็นประจำ แนะนำให้พบทันตแพทย์เป็นประจำทุก 6 เดือน เพื่อทำการตรวจเช็กสุขภาพช่องปาก เพราะถ้าหากมีฟันผุหรือมีความผิดปกติในช่องปาก ก็จะสามารถรักษาและแก้ไขได้ทัน นอกจากนี้ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญยังสามารถให้คำปรึกษา ให้คำแนะนำ พร้อมกับบอกวิธีการรักษาสุขภาพในช่องปากที่เหมาะสมได้อีกด้วย 
5.    ขูดหินปูน เพราะการขูดหินปูนจะช่วยลดการเกิดคราบแบคทีเรีย ซึ่งเป็นปัญหาของโรคเหงือกและโรคปริทันต์ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันฟันผุ ลดกลิ่นปาก ยืดอายุฟัน ทำให้ฟันสะอาด ดูสุขภาพดี และยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในเวลายิ้มได้เป็นอย่างดี 


เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก ที่ไม่เป็นอันตราย ปลอดภัย

การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก ส่งผลต่อการดูแลสุขภาพช่องปากวัยเรียนเป็นอย่างมาก แม้ว่าในปัจจุบันเราจะสามารถพบเห็นผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากยี่ห้อต่างๆ ตามร้านสะดวกซื้อหรือตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป แต่บางทีผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก็อาจไม่ได้ตอบโจทย์การดูแลสุขภาพในช่องปากที่ดีพอ ดังนั้นก่อนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก ควรคิดและอ่านรายละเอียดให้ดีก่อนซื้อ เพราะถ้าเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากได้ดี โอกาสที่จะเกิดความผิดปกติในช่องปากก็จะลดลง ในส่วนของผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับการดูแลช่องปากวัยเรียน ส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของฟลูออไรด์และธรรมชาติ อย่างเช่น ยาสีฟันหลอดสีดำ ที่มีส่วนผสมของ Charcoal, Mentha Piperita oil, Sodium Fluoride เพราะส่วนผสมเหล่านี้จะช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย เชื้อราที่เป็นสาเหตุหลักของฟันผุ อีกทั้งยังทำให้ฟันขาวสะอาด และยังลดการสะสมของหินปูนได้เป็นอย่างดี

การดูแลสุขภาพช่องปาก เป็นสิ่งที่ควรทำและควรต้องทำเป็นประจำ เพราะถ้าดูแลสุขภาพในช่องปากได้ดี สุขภาพฟันและสุขภาพร่างกายก็จะแข็งแรง ดังนั้นคนที่อยากดูแลสุขภาพในช่องปากให้ห่างไกลจากฟันผุและห่างไกลจากปัญหาต่างๆ ควรรีบหาผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากดีๆมาใช้ สำหรับใครที่ยังไม่มีตัวเลือกดีๆ เราขอแนะนำผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ที่ไม่เป็นอันตราย ของ Medent Thailand อย่างเช่น ยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปาก นอกจากนี้ Medent ก็ยังมีผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากให้เลือกใช้อีกมากมาย หากใครสนใจ สามารถเข้าไปที่ MedentThailand  หรือ Shopee  ฯลฯ หากใครอยากรู้ว่ามีที่ไหนบ้างที่มีขาย คลิกเช็คเลย

บทความที่เกี่ยวข้อง

เรามีวิธี ทาลิปไม่ให้ตกร่อง ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาหลักให้สาวๆ ที่ไม่ควรมองข้าม

ลิปตกร่องคืออะไรเกิดขึ้นได้อย่างไร ทาลิปตกร่อง ปัญหานี้เกิดขึ้นกับสาวๆ...

10 ที่ใส่แปรงสีฟัน ยี่ห้อไหนดี จัดระเบียบแปรงสีฟันให้เป็นที่ ที่แขวนแปรงสีฟันสามารถหาซื้อได้ที่ไหนบ้าง ปี 2022

ที่ใส่แปรงสีฟัน การใช้ที่ใส่แปรงสีฟัน หรือ ที่เสียบแปรงสีฟัน จะช่วยให้การเก็บแปรงสีฟันหลังทำความสะอาดช่องปากนั้นเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น มีคนจำนวนไม่น้อยที่วางแปรงสีฟันเอาไว้เฉย ๆ หลังการใ...

สียางมงคล ประจำวันเกิด ปี 2566 เสริมดวง รับโชคลาภตลอดทั้งปี

เราจะมาอัพเดท สียางมงคล ปี 2566 สียางประจำวันเกิด เสริมดวง รู้ก่อน เปลี่ยนก่อน! ...


บริษัท มีดี ไชน์ จำกัด ซอย รามอินทรา 40 แยก 8 แขวง นวลจันทร์ เขต บึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร